ในยุคที่เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงคนได้ทุกคน การใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นด้วยการเชื่อมต่อ หรืออุปกรณ์อัจฉริยะที่เข้ามาอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และอื่นๆ ทำให้หลายฝ่ายนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งภาครัฐ เอกชน เยาวชน ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มาจากการใช้เทคโนโลยี ให้เกิดประโยชน์กับสังคมในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
ทุกภาคส่วนเปิดพื้นที่ช่วยชาวนาขายข้าวออนไลน์
แม้จะเห็นข่าวราคาข้าวตกต่ำแทบทุกปี แต่ต้องยอมรับว่าในปีนี้สถานการณ์สำหรับชาวนาหนักกว่าเก่า ถึงขั้นตื่นตระหนกกับราคาข้าวที่ลดลงเหลือเพียงไม่กี่สิบบาท ทำให้หลายฝ่ายต้องหันมาหาทางออกในเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง โดยมีการพัฒนาช่องทางออนไลน์เข้ามาเป็นตัวที่ช่วยเปิดการค้าขายข้าวที่เป็นการตัดพ่อค้าคนกลางออกไป รวมถึงการสร้างแบรนด์ให้กับชาวนาเป็นของตัวเองด้วย
เริ่มจากฝั่งภาครัฐ อย่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่เปิดเว็บไซต์ ThaiCommerceStore.com จำหน่ายขายข้าวผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะเป็น e-Directory สำหรับชาวนาที่ต้องการระบายข้าวด้วยตนเอง โดยจะจัดทำแบนเนอร์การจำหน่ายสินค้าข้าว และได้กำหนดรูปแบบร้านค้าข้าวออกเป็น 3 แบบ คือ แบบที่ 1 ชาวนาที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว หากเข้ามาในเว็บไซต์ ก็จะ สามารถลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของชาวนาได้ทันทีเพื่อเข้าไปดูรายละเอียดของสินค้า ส่วนแบบที่ 2 คือ กลุ่มชาวนาที่ไม่มีเว็บไซต์ แต่ใช้สื่อโซเซียลมีเดียในการทำตลาดเมื่อผู้ซื้อเข้ามาในเว็บไซต์ก็สามารถลิงก์เข้าไปยังแอ็กเคานต์ในโซเชียลมีเดียของชาวนาได้
สำหรับกลุ่มชาวนาที่ยังไม่มีเว็บไซต์ และไม่ได้ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ก็สามารถแจ้งรายละเอียดในส่วนของแบบที่ 3 โดยใส่ช่องทางการติดต่อที่อยู่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ไว้ที่เว็บไซต์ให้ผู้ซื้อติดต่อ ซึ่งผู้ที่ให้รายละเอียดไว้แล้วจะถูกบันทึกรายชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ในไดเร็คทอรี่ภายในเว็บไซต์ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาและติดต่อ
จุดอ่อนตรงนี้ ทำให้ชาวนาอาจจะยังขายข้าวในราคาที่ต่ำ ซึ่งการที่ติดสติ๊กเกอร์แบรนด์สินค้าลงบนถุงข้าวจะช่วยให้เพิ่มมูลค่าในการขายได้หลายเท่าตัว
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Thai Smart Farmers Promotion ของกระทรวงพาณิชย์ สำหรับชาวนาที่เริ่มมีความแข็งแกร่งในแบรนด์ของตนเอง และข้าวที่ได้คุณภาพ โดยสนับสนุนการระบายข้าวสู่ตลาดต่างประเทศผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ Thaitrade.com Center เริ่มตั้งแต่การให้พื้นที่โฆษณา ให้คำแนะนำเรื่องการถ่ายภาพและการเขียนบรรยายสินค้า ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรู้และเทคนิคด้านการค้าออนไลน์ ตลอดจนการจับคู่ทางธุรกิจให้แก่เกษตรกรชาวนาไทยกับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการซื้อ-ขายอย่างครบวงจร
![]() |
ฉบับที่ 216 เดือนธันวาคม ใช้ App ช่วยสังคม ลดช่องว่างคนที่ลำบาก |
ทั้งนี้ หากชาวนาสนใจที่จะอยากเปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ไม่มีความรู้หรือทักษะไอที ด้านภาคเอกชนอย่าง บริษัท MakeWebEasy ผู้ให้บริการสร้างเว็บฯ สำเร็จรูป ได้เข้ามาช่วยเหลือสำหรับชาวนาที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ด้วยการสร้างเว็บไซต์ให้ฟรี
ทางฝั่งองค์กรขนาดใหญ่อย่าง ดีแทค ก็มีโครงการเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด โดยในปีนี้มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้ เป็นโซลูชั่นการวัดค่าความชื้นที่สามารถอ่านค่าได้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนมาควบคุมการผลิตพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะเน้นการทดลองใช้สำหรับข้าว ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านราคาในการขายข้าวได้สูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนคนไทยสู่ Smart Farmer และสตาร์ทอัพด้านการเกษตร หรือ Agri Tech โดยการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการแก้ปัญหาการเกษตร เข้ามาลดช่องว่างต่างๆ ที่ชาวนายังขาดอยู่ และยังเป็นการช่วยผลักดันโมเดล ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลด้วย
ด้าน บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ทั้งยังเห็นว่าการขายข้าวผ่านช่องทางออนไลน์จะช่วยเพิ่มยอดขายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีพ่อค้าคนกลางหากรู้วิธีจัดการอย่างครบวงจร
“เราต้องเริ่มทำข้าวให้มีคุณภาพที่ดีก่อน ถึงจะสามารถเพิ่มราคาข้าวให้สูงขึ้นได้ อย่างในประเทศนอร์เวย์ เกษตรกรได้รับการช่วยเหลือทุกอย่างจากภาครัฐ มีหน้าที่เพียงรับโควต้าจำนวน และปลูกส่งสินค้าตามปริมาณที่รับเท่านั้น แต่สำหรับประเทศไทย ณ วันนี้ ไม่ต้องรอให้รัฐมาช่วยเพียงอย่างเดียว ชาวนาก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยเปลี่ยนวิธีการขายใหม่ใช้ช่องทางการจำหน่ายผ่านอินเทอร์เน็ตเข้ามาเสริม ซึ่งมีผู้บริโภครอที่จะซื้ออยู่มากมาย”
คนออนไลน์ช่วยสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่าขายข้าวออนไลน์
แม้ว่าหลายหน่วยงานจะเปิดพื้นที่ขายข้าวกับผู้บริโภคโดยตรง ทำให้ชาวนาหลายคนหันมาขายข้าวเองผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนมาก ทั้งในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเว็บไซต์ จนผุดเป็นเทรนด์ขึ้นมา แต่ว่าการขายแบบไม่มีแบรนด์ไม่มียี่ห้อ อาจทำให้ได้ราคาไม่สูง จุดอ่อนตรงนี้ทำให้ชาวนาอาจจะยังขายข้าวในราคาที่ต่ำ ซึ่งการที่ติดสติ๊กเกอร์แบรนด์สินค้าลงบนถุงข้าวจะช่วยให้เพิ่มมูลค่าในการขายได้หลายเท่าตัว
ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่รอการแก้ไข โดยไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากโครงการของภาครัฐ หรือเอกชน เพราะทุกคนที่มีไอเดียก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน
ทาง สมาคมการพิมพ์ไทย ได้มีการเข้ามาช่วยลดช่องว่างในส่วนนี้ จัดพิมพ์พร้อมจัดส่งถึงมือชาวนาฟรี เพื่อความเป็นมาตรฐาน และความสะดวกรวดเร็วในการผลิต โดยมีการประสานความร่วมมือตั้งแต่ Graphic Designer จิตอาสา เช่น เพจ IDXW, เพจปรัชญากราฟฟิกฯ, เพจออกแบบ “ให้” เป็นต้น
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นวิธีที่นำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประสบปัญหา และแก้ไขความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง และมีผลที่น่าพึงพอใจ แต่การแก้ปัญหาระยะยาวนั้นก็จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงเรื่องปัญหาข้าวเพียงอย่างเดียว
ผู้พิการทางสายตานักพัฒนาให้ความสำคัญแม้จะเข้าถึงไอทียาก
หากจะให้นึกถึงการใช้นวัตกรรมกับผู้พิการทางสายตา หลายๆ คนอาจจะยังนึกภาพไม่ออก เนื่องจาก ในเมื่อมีข้อจำกัดทางด้านการมองเห็น การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ก็ดูจะเป็นเรื่องยาก แต่ปัจจุบันผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ มองประเด็นนี้เป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข จึงเกิดผลงานเพื่อคนกลุ่มนี้ออกมา
อย่างเช่น ผลงานของ นันทิพัฒน์ นาคทอง และบุษภาณี พงษ์ศิริยาภรณ์ นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี Visionear อุปกรณ์สวมใส่สำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็น เป็นเสมือนดวงตาให้กับผู้มีปัญหาด้านการมองเห็น ประกอบด้วย แว่นตาติดกล้องสำหรับถ่ายภาพจากด้านหน้าของผู้ใช้ และกล่องประมวลผลทำหน้าที่วิเคราะห์รูปภาพและอธิบายในรูปแบบของเสียงพูดให้แก่ผู้ใช้งาน สามารถแยกแยะธนบัตรด้วยเทคนิคทางรูปทรง แยกประเภทสินค้าโดยใช้บาร์โค้ด แยกสีด้วยเซ็นเซอร์และตรวจจับแหล่งกำเนิดแสง
ทั้งนี้ นอกจากคนรุ่นใหม่แล้ว ทางฝั่งขององค์กรเอกชน ก็มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อคนกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน MEM หรือ My Eye Memory อุปกรณ์คีย์บอร์ดสำหรับผู้พิการ ทางสายตา เป็นผลงานนวัตกรรมที่กลุ่มทรู ได้พัฒนาต่อยอดร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ให้สามารถบันทึกข้อมูลด้วยการกดปุ่มตามอักษรเบรลล์ และย้อนกลับไปฟังความถูกต้องได้ รวมถึงแก้ไขข้อมูล ทำสำเนา และส่งข้อมูลที่บันทึกไปยังอุปกรณ์ไอที เพื่อส่งต่อข้อความหรือสร้างเอกสารให้คนอื่นได้ รองรับภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อ ช่วยให้ผู้พิการทางสายตา สามารถจดบันทึกการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งถึงแม้อุปกรณ์เหล่านี้จะยังไม่แพร่หลาย แต่ด้วยคุณสมบัติ และรางวัลที่ได้รับ แสดงให้เห็นว่า การดำเนินชีวิตของคนกลุ่มนี้จะดียิ่งขึ้นเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยเหลือข้อบกพร่อง
การศึกษายังคงเป็นสิ่งสำคัญที่เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยเสริมโอกาส
คุณสมบัติของเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็นจุดเด่นที่ช่วยเรื่องการศึกษาให้เข้าถึงทุกคนได้ อย่างในประเทศไทยเอง ก็มีหลายโครงการจากฝั่งรัฐบาล อาทิ โครงการด้านศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ระบบการศึกษาออนไลน์แบบเปิดเพื่อมหาชน (MOOC) เป็นต้น ที่ได้มีการตื่นตัวนำเทคโนโลยีมาใช้ และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากช่วยพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของคนในพื้นที่ห่างไกลได้จริง
ปัจจุบัน นอกจากการเรียนรู้ผ่านสถาบันการศึกษาแล้ว ช่องทางการเรียนออนไลน์ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงการศึกษา คอร์สเรียนออนไลน์ ที่จะได้รับใบประกาศนียบัตรรับรอง ในประเทศไทยต้องยอมรับว่ายังมีไม่มาก และความหลากหลายไม่มากเท่ากับในต่างประเทศ ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรกๆ ที่ต้องเรียนรู้
Glurr Talk พื้นที่เรียนภาษาออนไลน์สำหรับวัยรุ่น แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ผลงานของนักพัฒนาชาวไทยภูเบศ สุวานิช ภายใต้คอนเซปต์ “Everyone Can Learn Every Language by Talk” ที่เปิดให้นักเรียนนักศึกษาเข้ามาเป็นติวเตอร์ และเรียนผ่านโปรแกรมสไกป์ เพื่อให้ผู้เรียนและผู้สอนมีความใกล้ชิด และได้พูดคุยกันในประเด็นที่ผู้เรียนอยากรู้ ซึ่งอาจจะเป็นการพูดคุยเรื่องทั่วไป หลักไวยากรณ์ การอ่านเขียนต่างๆ ในราคา120-160 บาท ต่อ 30 นาที ซึ่งต่ำกว่าการเรียนที่สถาบันภาษาทั่วไป
นอกจากการศึกษาทั่วไปแล้ว การเสริมสร้างพัฒนาการด้านการเรียนรู้ให้กับเด็กพิเศษ ก็ไม่ได้ถูกมองข้ามไป โดยมีแอพฯ เพื่อการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ Kare ที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และการปฏิบัติตนตามสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน สู่การช่วยเหลือตนเองแบบบูรณาการสำหรับเด็กพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยการเรียนรู้เชิงสถานการณ์ เช่น บ้าน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร เพื่อการโต้ตอบปฏิสัมพันธ์ นำไปสู่การประยุกต์ใช้ และสามารถดูแลช่วยเหลือตนเองเพื่อการเข้าสู่สังคมได้ดียิ่งขึ้น
และนอกจากการเชื่อมโยงเพื่อเปิดโอกาสในการเรียนรู้แล้ว เทคโนโลยีอื่นๆ ก็มีส่วนช่วยในการศึกษาได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่น VR ที่กำลังได้รับความนิยมก็เข้ามาช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ทางด้านการศึกษา ให้ได้เห็นภาพได้อย่างใกล้ชิด ในเรื่องราวที่ยากจะสัมผัส ซึ่งนอกจากนี้แล้วเทคโนโลยีอื่นๆ ก็น่าจะถูกนำมาพัฒนาได้เช่นเดียวกัน
เห็นได้ว่า การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับผลงานนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสังคม เกิดขึ้นได้ทุกด้าน และมีจำนวนมาก การเชื่อมต่อคนเข้าด้วยกันได้ช่วยลดช่องว่างที่มีอยู่ และเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ ทั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้น ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่รอการแก้ไข โดยไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจากโครงการของภาครัฐ หรือเอกชน เพราะทุกคนที่มีไอเดียก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน