MS’Happydiet ศวิตา เศรษฐาภรณ์ ดูแลสุขภาพให้ถูกวิธีอย่างมีความสุข

การดูแลสุขภาพของแต่ละคนก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์ โดยวิธีที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้คือ การดูแลเรื่องอาหารการกิน หลายคนเลือกที่จะหาซื้ออาหารเพื่อสุขภาพตามท้องตลาด อีกส่วนมองหาสูตรอาหารที่สามารถทำได้เองจากอินเทอร์เน็ต ที่ในปัจจุบันก็มี Channel ให้เลือกติดตามกันมากมายทั้งไทยและต่างประเทศ

 เมย์-ศวิตา เศรษฐาภรณ์

เมย์-ศวิตา เศรษฐาภรณ์

MS’Happydiet โดย เมย์-ศวิตา เศรษฐาภรณ์ เป็นหนึ่งบล็อกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารที่ไม่เครียด และใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่ายๆ ในประเทศไทย ซึ่งถูกหลักอย่างแน่นอน เพราะเธอได้ศึกษาทางด้านโภชนาการอย่างจริงจัง การันตีด้วยประกาศนียบัตรถึง 3 ใบ

เริ่มจากไลฟ์สไตล์กลายเป็นบล็อกเกอร์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การกินคือความสุข และด้วยความเป็นคนที่ชอบกินในช่วงที่ไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐฯ น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นมาถึง 6 กิโลกรัม ใน 3 เดือน และด้วยความที่ไม่ชอบออกกำลังกาย จึงค้นหาวิธีเพื่อลดน้ำหนักด้วยตัวเอง จนพบว่าการกินอาหารเพื่อสุขภาพเป็นทางออกที่เหมาะกับตัวเองที่สุดด้วยความที่เป็นคนชอบถ่ายรูป ในไอจีของเธอจึงเต็มไปด้วยอาหาร การออกกำลังกาย และไลฟ์สไตล์ ทั้งยังมีในเรื่องของความคิด เพราะเชื่อว่ามุมมองวิธีคิดในการใช้ชีวิตก็มีผลกับการกระทำหลายๆ อย่างด้วย พอคนติดตามไอจีมีมากขึ้น ก็เริ่มมาทำเฟซบุ๊ก และเปิดตัวเว็บไซต์เมื่อปีที่ผ่านมา

โดย MS’ Happydiet ก็มาจาก “เมย์ ศวิตา” แต่ส่วนใหญ่คนจะเรียกว่า “มิสแฮปปี้ไดเอท” ที่ติดปากมากกว่า สำหรับคำว่า “แฮปปี้ไดเอท” ในมุมของเธอ ไม่ได้แปลว่าลดความอ้วนอย่างเดียว แต่เป็นการซึมซับเข้าไปในการใช้ชีวิต กินแบบแฮปปี้ คิดแบบแฮปปี้ และใช้ชีวิตอย่างแฮปปี้ ซึงก็พยายามที่จะถ่ายทอดสิ่งนี้ออกไปให้กับผู้ติดตามทุกคนด้วย

“ส่วนตัวไม่ได้มีการกำหนดว่าต้องลงรูปอะไรยังไง คือเรากินอะไรทำอะไรก็โพสต์ไป ที่มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะว่ามีการแชร์ต่อๆ กัน เมย์เองเริ่มทำมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งคนไทยก็ยังไม่ได้ตื่นตัวกันมากขนาดนี้ด้วย และอีกส่วนคือ มันเป็นการแบ่งปันไลฟ์สไตล์ที่ไม่เครียดจนเกินไป ไม่มีการนับแคลอรี่ อดอาหาร พอเริ่มกินอาหารสุขภาพคนก็เข้ามาปรึกษามากขึ้น ซึ่งจริงๆ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าที่เราทำอยู่เรียกว่าเป็นบล็อก แต่พอเริ่มมีคนมาเรียกว่าบล็อกเกอร์ ได้รับเชิญไปพูด ก็เข้าใจมากขึ้น เพราะว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นอะไรที่จริงจังขนาดนี้ แต่ว่าเมื่อมันเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้เราก็ดีใจ”

celeb2

ปรับเปลี่ยนไลฟ์ไตล์แต่ยังคงความสุข
ความเข้าใจผิดๆ ของหลายคนเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพคือคิดว่ามีราคาที่แพง และมีรสจืด จึงเลือกใช้วิธีอดอาหารหรืองดแป้ง งดไขมัน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการกระทำเหล่านี้ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และจะส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมามากมาย

เมย์ เล่าว่า ทุกอย่างมันมาจากไลฟ์สไตล์และวิธีคิดด้วย อย่างอาหารที่คิดว่าแพงจริงๆ น้ำพริกผักลวก ข้าวกล้อง ก็ดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบนำเข้าก็สุขภาพดีได้ ตรงนี้ยังต้องมีการทำความเข้าใจและก็เรียนรู้ถึงการเลือกกินให้ถูกต้องก่อน ส่วนเรื่องรสชาติถ้าเป็นคนที่กินรสจัดแล้วมาเปลี่ยนกะทันหัน ก็คงคิดว่าไม่อร่อยอย่างแน่นอน แต่ถ้าปรับไปเรื่อยๆ ก็จะคุ้นชินไปเอง

“พอกินอาหารแบบนี้คนก็จะชอบคิดว่าเราไม่กินของที่ทำให้อ้วน ซึ่งไม่ใช่เลย เมย์เป็นคนที่ชอบกินข้าวนอกบ้าน แล้วก็เดินทางบ่อยด้วย ก็ยังกินของที่อ้วนๆ อยู่ ซึ่งถ้ามันอร่อยก็คุ้มที่จะแลกนะ แต่ก็ไม่ได้กินทุกมื้อ ไม่ได้กินบ่อย ถ้าจะกินจริงๆ ก็ต้องเลือกให้มากขึ้น วัตถุดิบต้องดีจริงๆ ให้คุ้มค่ากับการออกกำลังที่ต้องทำตามมา จนเพื่อนๆ ชอบล้อว่าเป็นมิสแฟตตี้ไดเอท”

นอกจากเรื่องอาหารแล้วการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย จากคนที่ไม่ออกกำลังกาย ตอนนี้เธอเข้ายิมถึง 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกและยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย

e207

ฉบับที่ 207 เดือนมีนาคม

แพลตฟอร์มต่อไปของอีคอมเมิร์ซ

ถ่ายทอดความรู้ให้ปรับใช้ได้ด้วยความจริงใจเข้าถึงง่าย
เริ่มจากการถ่ายทอดความเป็นตัวเอง อาหารที่กินจริง กิจกรรมที่ทำจริงแล้วได้ผล ส่วนของคอนเทนต์จึงไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่มีการวางแผนที่ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา  แต่ก็เน้นวิธีที่ใช้ได้จริง สะดวก อย่างอาหารก็จะเอาสูตรจากบล็อกต่างประเทศ หรือตามร้านอาหารมาประยุกต์ใช้ของที่หาได้ง่ายๆ

“ตอนนี้กำลังจะเริ่มทำวิดีโอบน YouTube เพราะเชื่อว่าคนที่ติดตามน่าจะชอบแบบนี้ มันเหมือนได้พูดคุยกัน แต่ก็อยากทำให้แตกต่าง อาจจะบอกสรรพคุณ หรือวิธีเลือกให้เยอะๆ เป็นการใช้ความรู้ที่เราได้ไปเรียนมาถ่ายทอด ก็พยายามจะทำให้เป็นอะไรที่ไม่เครียด หลังจากนี้ก็จะเน้นความเป็น MS’ Happydiet ให้คนได้รู้มากขึ้น ก็ต้องมีการวางแผนในการทำคอนเทนต์มากขึ้นด้วย”

celeb3

แฮปปี้ไดเอท ในมุมของเธอ ไม่ได้แปลว่าลดความอ้วนอย่างเดียว แต่เป็นการซึมซับเข้าไปในการใช้ชีวิต กินแบบแฮปปี้ คิดแบบแฮปปี้ และใช้ชีวิตอย่างแฮปปี้ ซึงก็พยายามที่จะถ่ายทอดสิ่งนี้ออกไปให้กับผู้ติดตามทุกคน

พอทำบล็อกก็มีคนเข้ามาถามคำถามต่างๆ มากขึ้น ส่วนใหญ่ก็อยากจะผอมเร็ว ซึ่งตรงนี้เธอก็ให้คำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งพฤติกรรมการกิน หรือไลฟ์สไตล์ด้วย อีกคำเรียกร้องที่ได้รับความนิยมคือ ต้องการแผนการกินแบบละเอียด หรือคำนวณแคลอลี่ ซึ่งตรงนี้เธอก็บอกว่าสำหรับเธอไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพียงแค่เลือกกินให้ถูกหลัก และมีความสุขกับการกิน

เมื่อมีผู้ติดตามมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับในวงการบล็อกเกอร์ ทำให้ต้องมีการเลือกสิ่งที่จะโพสต์มากขึ้นด้วย เพราะคนจะเชื่อในสิ่งที่โพสต์ลงไปมาก เธอบอกว่าตอนทำบล็อกแรกๆ ก็เป็นการกระตุ้นตัวเองแล้วว่าต้องกินอาหารแบบนี้นะ เดี๋ยวไม่มีรูปมาลง คนรู้จักพอเห็นว่าดูแลสุขภาพอยู่ก็แนะนำร้านที่เกี่ยวกับด้านนี้มากขึ้น

“พออยู่ตรงนี้การติดต่อให้โฆษณาเข้ามาเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นสินค้าที่ไม่ตรงตามหลักการของเรา อย่างอะไรที่ดูรวดเร็ว ยาลดความอ้วนอะไรแบบนี้ก็ไม่ลงให้ หรืออะไรที่ดูแล้วไว้ใจได้เราก็จะลองก่อน ไม่มีการจ่ายเงินมาแล้วลงให้ ไม่ทำแน่นอน อย่างก่อนหน้านี้มีคนเข้ามาถามเรื่องการเลือกกินเยอะ เราจะไปค้นกูเกิลมาตอบมันก็ดูน่าเกลียด ด้วยความที่ชอบเรียนอยู่แล้วเลยตัดสินใจไปเรียนอย่างจริงจังเพราะเราต้องการมอบประโยชน์ให้คนที่ติดตามมากที่สุด”

ทั้งนี้ เธอยังดูแลการตลาดของธุรกิจขนมเพื่อสุขภาพ PRIZE อีกด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของคนชอบกินแต่ไม่ชอบอ้วน ทำให้เธอได้รู้พฤติกรรมการกินของคนไทยเพิ่มขึ้น และมองว่าเทรนด์สุขภาพอาจจะพึ่งได้รับความนิยม แต่ถ้าหากคนที่ทำจริงจังจนเป็นส่วนหนึ่งมันก็จะกลายเป็นความเคยชินไปโดยปริยาย เพราะต้องปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งการกิน การใช้ชีวิต

สุดท้าย คุณเมย์ ได้ฝากถึงคนที่สนใจในการดูแลสุขภาพว่าอยากให้ลอง และอย่ายึดติดว่าอาหารต้องจืด หรือมีข้ออ้างเรื่องเวลา เพราะทุกคนก็มีเวลาเท่าๆ กัน ถ้าเริ่มทำตรงนี้ก็ไม่มีใครได้ผลประโยชน์อะไรนอกจากตัวเอง ไม่ต้องรอจนแก่หรือป่วยก็สามารถทำตรงนี้ได้ เพราะมันส่งผลหลายอย่าง ยิ่งเริ่มเด็กเท่าไรมันก็เป็นกำไรชีวิตในระยะยาว