Nui-English ดร.สมิตา หมวดทอง เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องไกลตัว

ดร.สมิตา หมวดทอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาษาอังกฤษมีผลต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของทุกคนเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเราจะได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษกันมาตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียน แต่อัตราการเพิ่มขึ้นของโรงเรียนกวดวิชา และติวเตอร์ภาษาอังกฤษก็ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญต่อภาษาที่สองนี้อย่างแท้จริง

ดร.สมิตา หมวดทอง หรือคุณนุ้ย ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความตั้งใจจะถ่ายทอดภาษาอังกฤษให้เข้าถึงทุกคน ด้วยผลงานหนังสือ รายการทีวี โรงเรียนกวดวิชา และช่องออนไลน์อย่าง YouTube  โดยเน้นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และสร้างความบันเทิงให้กับผู้สนใจ อย่างการแปลเพลงไทยให้เป็นภาษาอังกฤษ

สอนแทรกการสอนภาษาร่วมกับความบันเทิง
แม้ว่างานหลักของเธอจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนของตัวเองอย่าง Nui English แล้ว เธอก็ยังเป็นนักเขียนที่มีผลงานมากมายทางด้านการสอนภาษาอังกฤษ และแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ต้องการส่งต่อให้กับผู้ที่สนใจ รวมทั้งมีช่องทางออนไลน์ที่มีการนำคอนเทนต์ต่างๆ ทั้งจากการสอนในห้องเรียน รายการ มารวบรวมไว้ให้ติดตามกันอีกด้วย

“เราเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นสายวิชาการ ดังนั้นเรื่องการสอนกับงานเขียนคือทางของเราอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร ส่วนเรื่องออนไลน์ จริงๆ YouTube นี่สมัครไว้นานแล้ว แต่พึ่งมาตั้งใจทำประมาณ 2 เดือน โดยจุดที่เริ่มมาร้องเพลง Cover ลงช่องคือ ตอนที่ทำรายการจะเป็นช่วงตอบคำถาม ซึ่งเป็นสาระมาก เลย มีการสรุปและอยากให้น่าสนใจ ก็เริ่มจากเป็นกลอนก่อน ก็พบว่าคนยังไม่ค่อยอิน เราก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นแปลเพลงดีกว่าไหม แต่สอน Grammar ไปด้วย ซึ่งผลตอบรับมันก็ดีขึ้นจริงๆ”

	ฉบับที่ 214 เดือนตุลาคม AI สำหรับแบรนด์ ผู้ช่วยในยุค IoT

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เรียนร้องเพลงเพื่อฝึกการใช้เสียงที่ถูกต้องในการสอนด้วย ซึ่งครูสอนร้องเพลงของคุณนุ้ยก็มีการสนับสนุนและแนะนำเพลงให้นำมาแปล การแปลเพลงแต่ละครั้งถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ แต่ทุกๆ เพลงที่ถูกทำเป็นคลิปออกมาจะถูกแทรกความรู้และศัพท์ใหม่ๆ ให้ได้เรียนรู้กันอย่างอัดแน่นเลยทีเดียว

Nui-English จะเน้นการจัดระดับตามความรู้ กับเรื่องของการใส่ใจรายบุคคล ว่าพื้นฐานประมาณไหนมีเป้าหมายอะไรในการมาเรียนที่นี่ อย่างถ้าเด็กๆ เลยต้องดูว่ามีใจหรือเปล่า ซึ่งเราต้องให้เขาเปิดใจก่อน ส่วนผู้ใหญ่เองเขาต้องเจอปัญหาบางอย่างถึงได้เข้ามา เราเองก็ช่วยซัพพอร์ตปัญหานั้น

ทักษะทางภาษาเป็นใบเบิกทางในยุคปัจจุบัน

“ที่มาสอนภาษาอังกฤษเพราะเราทำในสิ่งที่เรามีความรู้ เรารัก ก็เป็นอะไรที่มีความสุข การเริ่มต้นสนใจภาษาอังกฤษ คือที่บ้านจะเปิดเทปภาษาอังกฤษในรถตั้งแต่เด็กๆ เราก็โดนอัดไปโดยไม่รู้ตัว และก็ค้นหาเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งพบว่าอยากได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วภาษาอังกฤษทิ้งไม่ได้เลย ก็สนใจและเตรียมตัวกับทางนี้มากๆ”

อย่างที่รู้กันว่าภาษาอังกฤษจำเป็นต้องใช้ในปัจจุบัน เด็กๆ เอง ก็จะถูกพ่อแม่ส่งเสริมในเรื่องนี้อย่างมาก โดยการส่งเข้าสถาบันกวดวิชาต่างๆ เพื่อเรียนเพิ่มเติม ส่วนผู้ใหญ่ก็ตระหนักได้ว่าการทำงานและการใช้ชีวิตนั้นปฏิเสธทักษะทางด้านนี้ไม่ได้เลย และด้วยประสบการณ์ของการเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ คุณนุ้ยเล่าว่า พื้นฐานของคนที่เข้ามาเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน อย่างนักเรียนถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับชั้นเดียวกันคนละโรงเรียน ก็ยังมีช่องว่างที่ต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

“อย่างการสอนที่ Nui-English จะเน้นการจัดระดับตามความรู้ กับเรื่องของการใส่ใจรายบุคคล ว่าพื้นฐานประมาณไหนมีเป้าหมายอะไรในการมาเรียนที่นี่ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ประเมินแบบนี้เหมือนกัน อย่างถ้าเด็กๆ เลยต้องดูว่ามีใจหรือเปล่า บางคนโดนบังคับมา พ่อแม่ก็คาดหวัง ซึ่งเราต้องให้เขาเปิดใจก่อน ส่วนคนที่เข้ามาเพื่อที่จะสอบก็เน้นการทำข้อสอบไปเลย แล้วมาดูว่าตรงไหนผิดและเรียนรู้ไป แต่อย่างผู้ใหญ่เองเขาต้องเจอปัญหาบางอย่างถึงได้เข้ามา เราเองก็ช่วยซัพพอร์ตปัญหานั้นให้เขาเข้าใจและนำไปใช้ได้เลย”

คอนเทนต์มากมายให้เลือกเรียนรู้ ผู้เขียน-อ่าน ต้องคัดกรองมากขึ้น
สื่อการสอนภาษาอังกฤษในตอนนี้มีหลากหลายให้เลือก มีทุกช่องทางให้เข้าถึง ซึ่งทำให้เป็นเรื่องใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ค้นในสิ่งที่ต้องการก็มีให้เลือกได้ทั้งเข้าใจง่าย ลึกซึ้ง เป็นทางการ แต่เมื่อมีคอนเทนต์มากขึ้น การเลือกและดูเนื้อหาให้แม่นยำก็เป็นความสำคัญอย่างมาก

“เมื่อก่อนถ้าเราอยากรู้อะไรมันต้องมาจากหนังสือ ซึ่งกระบวนการทำหนังสือแต่ละเล่มมันต้องมีความละเอียดมาก คำผิดเนื้อหาผิดแทบจะไม่มี แต่เดี่ยวนี้ใครๆ ก็สร้างคอนเทนต์ได้ เขียนอะไรลงไปก็ได้ ทุกคนเข้าถึงหมด ซึ่งเรื่องของเวลาการผลิตเนื้อหามันต้องเร็ว และความแม่นยำมันจะน้อยลง ดังนั้นก่อนที่เราจะเสพอะไรต้องเลือก และดูความน่าเชื่อถือ ดูจากหลายๆ แหล่ง หรืออย่าง Google Translate จริงๆ มันใช้ได้ได้ดีเลยนะถ้าเราใช้เป็น และใช้อย่างถูกต้อง เพราะทุกอย่างมันง่ายแบบนี้ไงเลยทำให้การเรียนรู้ภาษามันไม่ยากแล้ว แค่เรามีความตั้งใจและสนใจจริงๆ”

สุดท้าย คุณนุ้ยยังฝากถึงคนที่กำลังต้องการศึกษาหรือค้นหาเป้าหมายที่อยากจะทำว่า การเริ่มรู้ตัว และแบ่งเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเราตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองได้แล้วนั้น ช่องทางที่จะค้นคว้าก็มีมากมายให้เลือก ค่อยๆ ให้เรื่องราวซึมซับเข้าไปทีละน้อย แต่สม่ำเสมอ ก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน