เพิ่มประสิทธิภาพร้านค้า ดันตลาดอีคอมเมิร์ซ

[efscolumn lg=”6″ md=”6″ smoff=”0″ mdoff=”0″ lgoff=”0″ ]
สืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด

สืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด

[/efscolumn]

[efscolumn lg=”6″ md=”6″ smoff=”0″ mdoff=”0″ lgoff=”0″ ]
ธีรพงษ์ วิชญเรืองรมย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด

ธีรพงษ์ วิชญเรืองรมย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด

[/efscolumn]

วีเลิฟช้อปปิ้ง ศูนย์กลางการให้บริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร มุ่งพัฒนาคุณภาพผู้ขายและเพิ่มประสบการณ์ด้านการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภค โดยพัฒนาแพลตฟอร์ม พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์สามารถทำการซื้อ-ขายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

sp2-2

ผู้เล่นอีมาร์เก็ตเพลสมากขึ้น เพิ่มทางเลือกผู้บริโภค
สืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า เทรนด์อีคอมเมิร์ซ และพฤติกรรมการซื้อ-ขายสินค้าของผู้บริโภค ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2015-2016 พบว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีจำนวนสูงขึ้นกว่า 56 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการใช้งานอีคอมเมิร์ซ แม้ว่าสัดส่วนการค้าปลีกออนไลน์ในไทยจะมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของตลาดค้าปลีกทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 2 ล้านล้านบาท ขณะที่จีนมีสัดส่วน 9-11 เปอร์เซ็นต์ อเมริกา 8 เปอร์เซ็นต์ และสหภาพยุโรป 6-8 เปอร์เซ็นต์ ด้วยสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงตัวเลขของตลาดอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ขณะที่ประเทศไทย เชื่อว่ายังมีศักยภาพในการขยายตัวได้อีกมาก แม้จะมีผู้ประกอบการหลายราย รวมถึงมีผู้เล่นจากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในไทย แต่มองว่าจะส่งผลให้ตลาดอีมาร์เก็ต-เพลสไทยคึกคัก และมีการแข่งขันในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์ม การสร้างฟีเจอร์ รวมถึงการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อสร้างประสบการณ์และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น สำหรับแนวทางที่จะช่วยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอีคอมเมิร์ซได้คือ 1. การพัฒนาระบบการซื้อ-ขายออนไลน์ให้ลูกค้าเชื่อใจ เพื่อสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง 2. ระบบการขนส่งที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายภายในวันเดียวกันหรือวันรุ่งขึ้น 3. แนวทาง Creative ในการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้แบรนด์และผู้ประกอบการเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาดูสินค้า และต่อยอดด้านการขายให้กับร้านค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอีกด้วย

การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ง่ายขึ้น ช่วยดันอีคอมเมิร์ซโต
สืบสกล กล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมา ไอทรูมาร์ท และวีเลิฟช้อปปิ้ง ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ต่างประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยไอทรูมาร์ท มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นถึง 700 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ วีเลิฟ-ช็อปปิ้ง มียอดการสั่งซื้อเติบโตขึ้น 200 เปอร์เซ็นต์ โดยมียอดการสั่งซื้อสินค้าเฉลี่ย 7,000 รายการต่อวัน และมียอดการสั่งซื้อสูงสุดถึง 10,000 รายการต่อวัน โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมที่มียอดการสั่งซื้อสูงสุดถึง 17,000 รายการ พบว่าเป็นการสั่งซื้อจากอุปกรณ์โมบายล์ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และลูกค้ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้หญิง

ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือได้ง่ายขึ้น เป็นผลมาจากการเข้ามาของ 4G และการขยายพื้นที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตของโอเปอเรเตอร์ อีกทั้งการมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่หลากหลาย และด้วยประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้ จะเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้เกิดการใช้อีคอมเมิร์ซมากขึ้น

pree-sp2

นอกจากการพัฒนาแพลตฟอร์มและสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ วีเลิฟช้อปปิ้งยังคงจะมุ่งเน้นการซื้อขายในรูปแบบของ C2C  โดยใช้งบลงทุน 900 ล้านบาท ในการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ 5 ด้าน

พัฒนาแพลตฟอร์ม-ฟีเจอร์ใหม่ รองรับความต้องการผู้ใช้
ธีรพงษ์ วิชญเรืองรมย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ วีเลิฟช้อปปิ้ง จะมีการลงทุนและพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง โดยจะพัฒนาแพลตฟอร์มร้านค้าให้มีประสิทธิภาพด้านการซื้อ-ขายสินค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อให้บริการตั้งแต่การซื้อ-ขาย ไปจนถึงการขนส่งสินค้าไปยังผู้ซื้อ โดยเชื่อมต่อกับ Aden เครือข่ายบริการด้าน Fulfillment เพื่อผลักดันให้ร้านค้ามีศักยภาพในการทำธุรกิจได้อย่างครบวงจร ได้แก่ 1. การฝากสินค้าในคลัง Aden Fulfillment ที่ดูแลเรื่องการจัดเก็บ การแพ็คสินค้า และการส่งสินค้า เพื่อลดเวลาและต้นทุน 2. การชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทาง และแบบผ่อนชำระ 0 เปอร์เซ็นต์ผ่านระบบ TrueMoney เพื่อเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้า ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ซื้อทุกรูปแบบ 3. การใช้โครงสร้างพื้นฐาน Cloud Service บน TIDC ซึ่งเป็นพันธมิตรระดับโลกกับ Amazon Web Service เพื่อเสริมศักยภาพในการรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“หลังจากที่วีเลิฟช้อปปิ้งมีการปรับแบรนด์เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ได้มีการให้เปิดร้านค้าฟรีโดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ระบบตัวกลางชำระเงินแบบ Escrow โดยร่วมมือกับ TrueMoney ให้บริการ WeTrust Guarantee และการเปิดให้ผู้ซื้อสามารถให้คะแนนความพึงพอใจที่มีต่อร้านค้า อีกทั้งมีทีมงานให้คำปรึกษาเรื่องการทำการตลาด (Seller Business Consultant) อีกด้วย ทั้งนี้ปัจจุบันมีรายการสินค้ากว่า 5.5 ล้านรายการ จากจำนวนร้านค้า 3.5 แสนร้านทั่วประเทศ โดยมีสินค้า 32 หมวดหมู่ ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และแกดเจ็ต 44 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม 20 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มสินค้าแฟชั่น 16 เปอร์เซ็นต์” ธีรพงษ์ กล่าว

e209_1

ฉบับที่ 208 เดือนเมษายน

ตลาดวิดีโอคอนเทนต์ โอกาสของแบรนด์เล็ก

เตรียมงบ 900 ล้านบาท ขยายแพลตฟอร์ม
ธีรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากการพัฒนาแพลตฟอร์มและสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว ในปีนี้วีเลิฟช้อปปิ้งยังคงจะมุ่งเน้นการซื้อ-ขายในรูปแบบของ C2C  โดยใช้งบลงทุน 900 ล้านบาท ในการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ 5 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาแพลตฟอร์ม 2. การดูแลโครงสร้างพื้นฐาน 3. การสื่อสารทางการตลาด 4. การขยายความร่วมมือกับพันธมิตร 5. การเพิ่มและพัฒนาบุคลากร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร้านค้า โดยเชื่อว่าความสามารถในการแข่งขันธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อยู่ที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพ ที่ต้องมีความเข้าใจทั้งด้านนวัตกรรมและระบบนิเวศของอีคอมเมิร์ซ

“เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอีมาร์เก็ตเพลส ในปี 2016 มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ หลังจากที่ iTrueMart ได้ขยายธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ได้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านค้าบนวีเลิฟ-ช็อปปิ้งเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์จะเพิ่มขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีจำนวน 30 ล้านคนต่อปี” ธีรพงษ์ กล่าว

sp2-3

ตัวกลางช่วยสร้างความมั่นใจ ระหว่างผู้ขาย-ผู้ซื้อ
ทั้งนี้ จุดเด่นที่ทำให้วีเลิฟช็อปปิ้งได้รับความนิยม เชื่อว่ามาจากการเปิดโอกาสให้ผู้ขายสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ขายได้ฟรี ขณะเดียวกันยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ช่วยสร้างความมั่นใจในการซื้อ-ขาย และดึงให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ

โดย สุรติพงษ์ จันทร์เหลือง เจ้าของธุรกิจร้านออนไลน์ มุ้งมิ้ง ไอที ช๊อป กล่าวว่า ธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องหาเครื่องมือที่จะช่วยในการเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น  วีเลิฟช้อปปิ้ง จึงตอบโจทย์ด้านการเข้าถึงลูกค้าที่หลากหลาย ทำให้ปัจจุบันธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าสู่ต่างจังหวัดได้มากขึ้น โดยมีสัดส่วนถึง 60 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ นิกร สุขเจริญ เจ้าของธุรกิจร้านออนไลน์ Modern Time  กล่าวว่า ร้านค้าขนาดเล็ก อาจไม่มีงบประมาณในการโฆษณามากนัก อีกทั้งยังมีความกังวลเรื่องเว็บไซต์ การใช้ระบบไอทีต่างๆ รวมถึงการเข้าถึงผู้บริโภคที่ทำได้ยากกว่าร้านค้าใหญ่ๆ วีเลิฟช็อปปิ้งทำให้การจัดการกับระบบหลังบ้านง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งหน้าร้าน การเพิ่มสินค้า หรือดูการสั่งซื้อสินค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถขายบนออนไลน์ได้ง่าย

ริญญาภัสร์ ภัทรวรสิรินันท์ เจ้าของธุรกิจร้านออนไลน์ ช็อปคลับดอทคอม

ริญญาภัสร์ ภัทรวรสิรินันท์ เจ้าของธุรกิจร้านออนไลน์ ช็อปคลับดอทคอม

ด้าน ริญญาภัสร์ ภัทรวรสิรินันท์ เจ้าของธุรกิจร้านออนไลน์ ช็อปคลับดอทคอม กล่าวว่า ช็อปคลับดอทคอม จำหน่ายสินค้านำเข้า ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น ของใช้ในบ้าน ฯลฯ ทำให้ต้องแข่งขันกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ทั้งนี้วีเลิฟช็อปปิ้งช่วยเสริมให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ สามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างและหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาในการสร้างยอดขาย คำแนะนำในการพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆ รวมถึงมีแคมเปญพิเศษที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

สืบสกล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามคาดว่า ภายใน 5 ปี ตลาดค้าปลีกออนไลน์ในไทยจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 1 เปอร์เซ็นต์ เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดขึ้นของผู้เล่นรายใหม่ที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาด รวมถึงการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในตลาดต่างจังหวัด ขณะที่ภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปีนี้ เชื่อว่าจะเติบโตประมาณ 100 เปอร์เซ็นต์ จากกระแสความนิยมในการจองและซื้อตั๋วเดินทางและท่องเที่ยว รวมถึงการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์